หากไม่ได้รับทุนอนาคตทางการศึกษาของผม คงจะแตกต่างไปจากตอนนี้อย่างมาก ผมคงจะต้องเรียนในสถานศึกษาที่ใกล้บ้านเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายของครอบครัวและอาจจะไม่ได้เรียนในสิ่งที่ตนเองรักจริง ๆ

“อั๊ต  พิรเดช  ช่วยนุกูล”
นักเรียนทุน รุ่นที่ 15/2556

⏩ เล่าเรื่องราวย้อนอดีต

       ก่อนที่จะได้รับทุนจากมูลนิธิดำรงชัยธรรม  ชีวิตความเป็นอยู่ก่อนที่จะได้รับทุนการศึกษานั้นลำบาก  เนื่องจากกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัวมีเพียงแค่แม่คนเดียว สิ่งที่ครอบครัวกังวลที่สุดในช่วงเวลานั้นคือ…ค่าใช้จ่ายในด้านการศึกษาของผมและพี่ ยิ่งเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้นเท่าไหร่ค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย และหากมองไปยังอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้าที่ผมและพี่จะต้องเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันหลายเท่า ลำพังแม่เพียงคนเดียวคงจะส่งเสียไม่ไหว ทุนการศึกษาจึงมีความจำเป็นและเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ได้ การได้รับทุนจากมูลนิธิดำรงชัยธรรมจึงเป็นเหมือนการเปิดโอกาสทางการศึกษา หากไม่ได้รับทุนอนาคตทางการศึกษาของผม คงจะแตกต่างไปจากตอนนี้อย่างมาก ผมคงจะต้องเรียนในสถานศึกษาที่ใกล้บ้านเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายของครอบครัวและอาจจะไม่มีโอกาสได้เรียนในสิ่งที่ตนเองรักจริง ๆ

 ความรู้สึกครั้งแรก ตอนที่เข้ามาเป็นนักเรียนทุน ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร…?

       รู้สึกดีใจและกดดันในเวลาเดียวกันเมื่อรู้ว่าได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในนักเรียนทุน ตอนนั้นมีความสุขมาก เนื่องจาก ความฝันที่อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของแม่นั้นได้กลายเป็นจริงแล้ว โอกาสทางการศึกษาของตัวผมเองก็เปิดกว้างยิ่งขึ้น สิ่งที่รู้สึกกังวลในช่วงแรกของการเป็นนักเรียนทุนคือเราจะสามารถทำได้ดีอย่างที่รุ่นพี่นักเรียนทุนคนก่อน ๆ ทำไว้ได้หรือไม่ เพราะนักเรียนทุนแต่ละคนต่างก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถด้วยกันทั้งสิ้น แต่หลังจากได้มาปฐมนิเทศทุน ได้ทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ และพี่ ๆ บัณฑิตทุนรวมถึงเจ้าหน้าที่ดูแลนักเรียนทุน ความรู้สึกกดดันเหล่านั้นก็เริ่มเลือนหายไป ทุกคนมีความเป็นกันเอง ดูแลกันแบบพี่น้อง เมื่อมีปัญหาต่าง ๆ ก็สามารถติดต่อขอคำแนะนำได้ตลอด จนรู้สึกได้ว่ามูลนิธิดำรงชัยธรรมนั้น เป็นเหมือนบ้านที่อบอุ่นอีกหลังหนึ่ง

⏩ มีความประทับใจ…ต่อการเข้ามาเป็นนักเรียนทุนของมูลนิธิ?

       ความประทับใจแรกเลย ก็คือการได้ทำกิจกรรมร่วมกับพี่บัณฑิตทุนในช่วงของการเข้าค่ายและการปฐมนิเทศทุนการศึกษา รวมถึงการได้รับรู้ถึงเรื่องราวของพี่ ๆ แต่ละคนที่ประสบความสำเร็จทั้งในด้านการศึกษา และหน้าที่การงาน พี่บัณฑิตบางคนกำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก บางคนเป็นอัยการ บางคนก็เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย การได้พูดคุยกับพี่ ๆ ทำให้เรามีกำลังใจในการต่อสู้มากยิ่งขึ้น เพราะว่ารุ่นพี่หลายคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบากกว่าเรา แต่ท้ายที่สุดแล้วพี่ ๆ ทุกคนก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ พี่ ๆ เป็นเหมือนแรงบันดาลใจในการเรียนและการทำกิจกรรมของผม แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นาน แต่ก็ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ประทับใจอย่างมาก ความประทับใจต่อมาคือความประทับใจในการทำงานของพี่ ๆ เจ้าหน้าที่ดูแลนักเรียนทุน ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาพี่ ๆ คอยดูแลและให้คำแนะนำในเรื่องการเรียน การทำกิจกรรม รวมถึงการส่งเอกสารต่าง ๆ เป็นอย่างดี การสื่อสารระหว่างพี่ ๆ กับนักเรียนทุนมีความเป็นกันเองอย่างมาก ทำให้รู้สึกดีที่จะเล่าประสบการณ์ของตนเองและขอคำปรึกษาต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา

⏩ สิ่งที่อยากฝากอยากบอกถึงน้องรุ่นหลัง ๆ

       การได้เข้ามาเป็นนักเรียนทุนนั้น ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญของชีวิต อยากจะให้น้อง ๆ รุ่นหลังรักษาโอกาสครั้งนี้เอาไว้ เพราะว่ามีเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่อยากจะได้รับโอกาสแบบเดียวกับเรา สิ่งที่สำคัญคือเรื่องการส่งเอกสารต่าง ๆ ที่น้อง ๆ จะต้องให้ความสำคัญ เพื่อประโยชน์ของน้อง ๆ เอง และให้รำลึกถึงอุดมการณ์ของมูลนิธิอยู่เสมอเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติให้เรายังคงดำเดินไปในทางที่ถูกที่ควร