สวัสดีครับผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน ผมก็มีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นมาฝากทุกๆ คนอีกเช่นเคยครับ  สำหรับในช่วงนี้ ที่ประเทศญี่ปุ่น ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับดอกซากุระที่มาพร้อมกับฤดูใบไม้พลิที่อบอุ่นครับ โดยฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นนั้น จะเริ่มตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมของทุกปี เรื่อยไปจนถึงราวๆ กลางเดือนกรกฎาคมครับ และในช่วงฤดูไบไม้ผลินี้ ก็จะเป็นฤดูแห่งการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ของคนญี่ปุ่นครับ ทั้งเป็นช่วงเปิดภาคเรียนของทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัย และเป็นช่วงการเริ่มเข้าทำงานของพนักงานใหม่ของบริษัทต่างๆ ดังนั้นช่วงต้นเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ก็ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ และมีสีสันมากๆฤดูกาลหนึ่งของชาวญี่ปุ่นเลยครับ

และซากุระ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดฤดูหนาว และต้อนรับอากาศอบอุ่น ที่เบ่งบานในช่วงที่เป็นจุดเริ่มต้นหลายๆ อย่างของชาวญี่ปุ่น จึงเป็นต้นไม้ที่ชาวญี่ปุ่นผูกพันและรักมากต้นหนึ่งเลยครับ  สำหรับในบทความครั้งนี้ ผมก็อยากจะขอแนะนำจุดชมดอกซากุระที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในโตเกียว เผื่อทุกๆ ท่านได้เดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงต้นเดือนเมษายน ก็ขอเชิญไปชมกันได้นะครับ

สถานที่แรกก็คือ สวนสาธารณะอุเอโนะ (Ueno Park) สถานีรถไฟอุเนโนะ(Ueno Station)ครับ สำหรับสวนสาธารณะแห่งนี้ก็เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างดีอยู่แล้วนะครับ เพราะเดินทางสะดวกจากทั้งสนามบินนาริตะและฮาเนดะ มีรถไฟหลายสายผ่าน อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ในโตเกียว และเป็นแหล่งรวมสินค้าราคาถูกและหลากหลายประเภทเอาไว้มากมายครับ ทุกๆ ปีช่วงฤดูซากุระ ผมก็จะเดินทางมาดูซากุระของที่นี่ให้ได้ครับ เพราะมีต้นซากุระหลากหลายสายพันธุ์ปลูกเรียงรายตามเส้นทางสองข้างของสวนอย่างสวยงาม และที่สำคัญมีถนนที่เป็นเหมือนกับอุโมงค์ซากุระแบบนี้ถึงสองจุดด้วยกัน ถือเป็นไฮไลต์หนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยครับ

สถานที่ต่อมาก็คือสวนสาธารณะ ชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen Park) สถานีรถไฟใต้ดินสาย Marunouchi Line สถานี Shinjuku-gyoenmae Station ครับ สวนสาธารณะแห่งนี้ ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่าใดนักครับ แต่สำหรับคนต่างชาติและชาวญี่ปุ่นแล้ว สวนแห่งนี้ถือเป็นสวนสาธารณะที่โด่งดังและสามารถมาท่องเที่ยวได้ทั้งปีเลยครับ เพราะนอกจากจะมีต้นซากุระที่ถือได้ว่าเป็นพระเอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่ในฤดูอื่นๆ ที่นี่ก็มีต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่จะคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งปีเลยครับ และที่สำคัญส่วนที่โด่งดังไม่แพ้กันก็คือ  สวนสไตล์ญี่ปุ่นที่หาดูได้ยาก ก็ถูกจัดแสดงเอาไว้อย่างงดงาม อีกทั้งสวนแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างชินจูกุด้วยครับ ยังไงผมก็ขอฝากสวนแห่งนี้เอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกท่านด้วยนะครับ

อันดับที่สามนั้น ผมขอเสนอ เส้นทางชมดอกซากุระริมทางเดินรอบแม่น้ำ Sumida River สถานีรถไฟ Asakusa Station ครับ ใช่แล้วครับ สถานีแห่งนี้เป็นที่ตั้งของวัดเซ็นโซจิ หรือวัดอาซากุสะ อันโด่งดังและเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติครับ หลังจากสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเซ็นโซจิเรียบร้อยแล้ว ก็ขอเชิญทุกท่านเดินข้ามมายังฝั่งแม่น้ำ ที่จะมองเห็นหอส่งสัญญาณวิทยุ Tokyo Skytree ตั้งตระหง่านอยู่ใกล้ๆ ครับ โดยแม่น้ำ Sumida แห่งนี้ก็เป็นแม่น้ำที่มีความผูกพันกับชาวโตเกียวมายาวนาน เป็นเส้นทางเดินทางด้วยเรือโดยสารที่สำคัญ และรอบๆทางเดินริมแม่น้ำ ก็ได้มีการปลูกต้นซากุระเอาไว้มากมาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ผู้คนมาพักผ่อนหย่อนใจ ตั้งกลุ่มทานอาหารกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวเพื่อชมดอกซากุระ หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า Hanami กันอย่างครื้นเครงครับ บรรยากาศริมน้ำก็คึกคักและสดชื่นมากๆ เลยล่ะครับ

อันดับที่สี่นั้น ผมก็จะขอแนะนำมิติใหม่แห่งการชมซากุระครับ นั่นก็คือการชมซากุระตอนกลางคืน ริมแม่น้ำ Meguro River สถานีรถไฟ Meguro ครับ เทศกาลชมดอกซากุระตอนกลางคืนของแม่น้ำเมกุโระนั้นถือได้ว่ามีความแปลกใหม่ และโด่งดังในด้านความโรแมนติกของการชมดอกซากุระมากๆ แห่งหนึ่งของโตเกียวเลยครับ โดยสองข้างทางเดินของแม่น้ำนั้น มีต้นซากุระถูกปลูกเรียงรายเอาไว้อย่างเป็นระเบียบมากมาย และจะมีการประดับโคมไฟมีชาวสลับชมพู เรียงรายไปตามทางเดินครับ แสงสีชมพูจากโคมไฟ พอต้องสะท้อนกับดอกซากุระ ก็จะเกิดเป็นประกายและเงาตกกระทบอย่างลงตัว ให้บรรยากาศโรแมนติกมากๆ เลยครับ ทำให้เป็นสถานที่ชมซากุระยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งของคู่รักครับ

จุดชมซากุระทั้งสี่แห่งที่ผมได้แนะนำไปนั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเองครับ และเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น และสถานที่แห่งสุดท้ายที่ผมจะขอแนะนำนั้น เป็นสวนสาธารณะใกล้บ้านผม ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก แต่รับรองว่าถ้าทุกท่านได้ไปชมซากุระในช่วงที่บานสะพรั่ง ทุกคนจะประทับใจอย่างแน่นอนครับ นั่นก็คือ สวนสาธารณะ Koganei Park สถานีรถไฟ Musashikoganei Station (เมื่อถึงสถานีแล้ว ต่อรถบัสหนึ่งต่อ หรือเดินไปที่สวนก็ได้ครับ) ครับ นอกจากซากุระแล้ว ต้นไม้น้อยใหญ่จำนวนมาก ได้ถูกปลูกบนเนื้อที่กว่า 8 แสนตารางเมตรอย่างลงตัว พร้อมกับพื้นที่สันทนาการและสวนศึกษาประวัติศาสตร์ ทำให้สวนแห่งนี้เป็นปอดที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของคนโตเกียวครับ

สุดท้ายนี้ ผมก็ขออนุญาตแนะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับการชมซากุระสักเล็กน้อยนะครับ ดอกซากุระจะเริ่มบานเมื่อเข้าสู่ช่วนที่อากาศอบอุ่นครับ ดังนั้น จึงจะบานไล่ระดับขึ้นมาจากทางใต้ของประเทศญี่ปุ่น ไปจนถึงตอนเหนือครับ และเนื่องจากว่าระยะเวลาการบานนั้น จะขึ้นอยู่กับความอบอุ่นของอากาศเป็นหลัก ช่วงเวลาการบานจึงไม่เท่ากันทุกปี สำหรับโตเกียวส่วนใหญ่ระยะเวลาจะอยู่ที่ราวๆปลายเดือนมีนาคม หรือช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปีครับ ทุกท่านสามารถตรวจสอบช่วงเวลาการบานของซากุระได้ง่าย โดยพิมพ์ “japan sakura forecast 20○○” ค้นหาใน Google ก็สามารถตรวจสอบได้ครับ

นอกจากนี้ เมื่อเริ่มบานเต็มที่แล้ว ดอกซากุระจะค่อยๆ ร่วงโรยเมื่อเข้าสู่ช่วงสัปดาห์ที่สองของการบานเต็มที่ครับ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็เริ่มบานไม่เท่ากัน ดังนั้น แม้ว่าจะมีช่วงการบานไม่นาน แต่ในแต่ละปี ก็จะสามารถชมดอกซากุระสายพันธุ์ต่างๆ ได้ประมาณหนึ่งเดือนครับ การดูดอกซากุระนั้น ไม่จำเป็นต้องไปชมที่สวนสาธารณะเท่านั้นนะครับ ต้นซากุระมีปลูกกระจายอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นเลยครับ ดังนั้น บางทีที่เราเดินๆ ชอปปิ้งอยู่ ก็อาจจะได้เจอกับต้นซากุระสวยๆ ตามทางเดินได้เป็นปกติครับ

สำหรับในครั้งนี้ผมก็ขอลาไปเพียงเท่านี้นะครับ เอาไว้โอกาสหน้าจะขอนำเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับญี่ปุ่นมาให้ได้ทราบกันอีกนะครับ สวัสดีครับ

 

ผู้เขียน  :  ไพโรจน์  เมืองมนประเสริฐ (โรจน์)  บัณฑิตทุน รุ่นที่ 13/2557