สวัสดีครับ  สำหรับในครั้งนี้  ผมก็อยากจะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทางเลือกแห่งหนึ่ง  ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวและสนามบินนาริตะ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่ญี่ปุ่น  และสนใจท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ  และชื่นชอบวัฒนธรรมพื้นบ้านของญี่ปุ่น  ได้ลองมาสัมผัสบรรยากาศที่แปลกตาและกลิ่นอายแบบชนบทที่หาไม่ได้ในโตเกียวดูนะครับ

ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมทัวร์ประเมินระดับความพึงพอใจ (Monitor Tour)  ของบริษัท JTB ที่ Kururi อยู่ในเขตเมือง Kimitsu จังหวัด Chiba ครับ โดยทัวร์จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนต่างชาติได้มาท่องเที่ยวในสถานที่ที่น่าสนใจ  แต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายนักในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ  เพื่อเป็นการโปรโมตการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นอีกทางหนึ่งครับ สามารถเดินทางด้วยรถบัสจากสถานีชิบะ (Chiba Station) ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง  หรือเดินทางจากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) ด้วยรถบัสประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งครับ  ระหว่างเส้นทางก็จะได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่สวยงามสองข้างทาง  ผ่านเส้นทางอ่าวโตเกียวและพื้นที่โอไดบะด้วยครับ

เมื่อไปถึง  พวกผมได้รับการต้อนรับอย่างดีจากคุณลุงคุณป้าชาวเมืองตลอดการท่องเที่ยว  ได้มีโอกาสใส่ชุด Kacchu ซึ่งเป็นชุดนักรบญี่ปุ่นโบราณ  แล้วเดินทางขึ้นไปถ่ายรูปที่ปราสาท Kururi  หลังจากนั้นก็ไปทานอาหารขึ้นชื่อประจำเมือง ชื่อว่า Jibie Don  ซึ่งเป็นอาหารคล้ายๆ กับข้าวยำของเกาหลี  แต่ใช้เนื้อหมูป่า  ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมือง เนื้อนุ่มอร่อยมากเลยครับ  นอกจากนั้นก็ได้ไปลองทำไม้จิ้มฟันโบราณ  มีอาจารย์เจ้าของสำนักมาสอนให้ทีละขั้นตอน  เมื่อได้ลองทำดูแล้วนั้น  ผมตระหนักได้ว่า  การเหลาและขูดไม้ซี่เล็กๆ จนเป็นไม้จิ้มฟันที่สวยงามแต่ละด้ามนั้น  ต้องใช้ความพยายามและสมาธิเป็นอย่างมากเลยล่ะครับ  ซึ่งทั้งกิจกรรมสวมชุดซามูไรโบราณและทำไม้จิ้มฟันที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนั้น  เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าร่วมได้ครับ  โดยจะมีอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นคอยแนะนำและการดูแลในเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างดีครับ

ผมได้ทราบจากอาจารย์ที่มาสอนว่า  ไม้จิ้มฟันโบราณของเมือง Kururi นั้น  มีจุดเริ่มต้นมาจากกลุ่มซามูไร  หลังจากที่สมัยสงครามจบลง  เหล่าซามูไรที่ว่างเว้นจากการทำศึก  ก็ได้รวมตัวกันเพื่อสืบสานและเติมต่อภูมิปัญญาการเหลาไม้จิ้มฟัน  และภาชนะสำหรับรับประทานอาหารที่มีมาแต่โบราณของเมือง  โดยใช้วัตถุดิบเป็นต้นไม้ที่ให้กลิ่นหอมที่ขึ้นอยู่โดยรอบเมืองมาเป็นวัตถุดิบหลัก  ให้มีเอกลักษณ์และรูปแบบที่สวยงาม กว่า 20 รูปแบบ  โดยทางอาจารย์ก็ได้มอบได้จิ้มฟันหนึ่งในรูปแบบเหล่านั้น  ให้พวกผมกลับมาเป็นที่ระลึกด้วยครับ  สวยงามมากเลยครับ

นอกจากนั้น  พวกผมก็ได้มีโอกาสไปทัศนศึกษาโรงงานผลิตเหล้าญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าใหญ่ของเมือง  คุณลุงเจ้าของบ้านก็พาเดินทัวร์โรงงานและอธิบายวิธีการผลิตเหล้าและชนิดของเหล้าญี่ปุ่นให้ฟัง  และได้ให้พวกเราได้ลองชิมเหล้าสูตรเด็ดของร้านกันด้วยครับ  คุณลุงก็เล่าให้ฟังนะครับว่า  ในปัจจุบันหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นก็นิยมทานเหล้าสาเกของดั้งเดิมญี่ปุ่นกันน้อยลง  ทำให้โรงงานผลิตสุราต้องปรับตัวทั้งเรื่องการตลาด  และผลิตเหล้ารสชาติและรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น  โดยสินค้าเด็ดของทางร้านก็มีอาทิเช่น Umeshu หรือเหล้าบ๊วยที่คนไทย  โดยเฉพาะสาวๆ ชอบรับประทานกันนั่นเองครับ  โดยผมก็ได้ขอถ่ายรูปกับคุณลุงเจ้าของโรงงานมาเป็นที่ระลึกด้วยครับ

ชาวเมืองก็บอกนะครับว่า  อยากให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ  มาเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวทางเลือกอย่างเมือง Kimitsu กันเพิ่มมากขึ้น  เพราะอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว  และสนามบินนาริตะ  และเป็นสถานที่ที่ยังไม่แพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากนัก  ทำให้สามารถสัมผัสกับกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างดีเลยครับ

สำหรับในครั้งนี้ผมก็ต้องขอลาไปก่อน  ผมจะนำเรื่องอะไรมานำเสนอในครั้งหน้านั้น  ขอให้ติดตามในครั้งต่อไปนะครับ  และถ้าหากพี่ๆ น้องๆ มีเรื่องราวอะไรที่ที่อยากทราบเกี่ยวกับญี่ปุ่น  ก็ส่งมาได้นะครับ  ผมจะพยายามค้นหาแล้วมาบอกเล่าให้ทราบกัน  สวัสดีครับ

 

ผู้เขียน : ไพโรจน์  เรืองมนประเสริฐ (โรจน์) บัณฑิตทุน รุ่นที่ 13/2557