บอร์ดคุรุสภาเห็นชอบในหลักการให้กลับไปผลิตครูหลักสูตร 4 ปี พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมกับผู้เรียนครู 5 ปีไม่ให้เสียเปรียบ อีกทั้งผู้เรียนครูต้องสอบขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูแทนการได้มาโดยอัตโนมัติ คาดเริ่มได้ปีการศึกษา 2561 เป็นต้นไป วันนี้ (3 ก.ค.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ในหลักการ เรื่องการกลับไปผลิตครูหลักสูตร 4 ปี ตามที่สภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย  (ส.ค.ศ.ท.) เสนอ โดยที่ประชุมเห็นว่า หากต้องการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วก็จำเป็นต้องรีบดำเนินการเรื่องสำคัญๆ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะการปรับมาตรฐานการผลิตครู ซึ่งสำนักงานเลขาธิการคุรุสภากำลังดำเนินการอยู่ รวมถึงปรับมาตรฐานหลักสูตรการผลิตครู ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และปรับหลักสูตรการเรียนการสอนจากหลักสูตรครู 5 ปีกลับไปเป็น 4 ปีเหมือนในอดีต รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบมาตรฐานวิชาชีพครู ซึ่งมี ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ เป็นประธาน ไปจัดทำข้อเสนอเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนการผลิตครูทั้งระบบ ใน 3 ส่วนสำคัญ คือ 1.การปรับมาตรฐานวิชาชีพครู ที่มี 11 มาตรฐาน ให้เป็นมาตรฐานที่อิงสมรรถนะมากขึ้น โดยประกอบด้วย การวัดความรู้ ทักษะ และ ความเป็นครู  2.การปรับวิธีการได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู จากเดิมที่ผู้เรียนคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ จะได้รับใบอนุญาตฯโดยอัตโนมัติ ให้เปลี่ยนเป็นการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตฯแทน รวมถึงจะต้องมีสถาบันคุรุพัฒนา เพื่อทำหน้าที่พัฒนาทักษะด้านต่างๆ ให้แก่ครู และ  3. การปรับหลักสูตรการผลิตครูจากหลักสูตร 5 ปี เป็น 4 ปี โดยต้องเป็นหลักสูตรที่ได้มาตรฐาน ขณะเดียวกันต้องพิจารณาแนวทางช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่กำลังเรียนหลักสูตร 5 ปีด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ทั้งนี้ตนได้ขอให้คณะอนุกรรมการฯ เร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าว และนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มใช้หลักสูตรผลิตครู 4 ปี ได้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 เป็นต้นไป      “การปรับหลักสูตรการผลิตครู ถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้ย้ำอะไรเป็นพิเศษ เพราะคณะอนุกรรมการฯ ที่มอบหมายให้พิจารณาเรื่องนี้ ประกอบด้วยไปด้วยผู้ที่มีความรู้ความสามารถ จึงมั่นใจว่าจะจัดทำข้อเสนอต่างๆ ได้อย่างครอบคลุมและเกิดประโยชน์สูงสุด”นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.kruwandee.com/news-id35407.html