ปัจจุบันกระแสรักสุขภาพมาแรงมาก การรับประทานผักปลอดสารพิษ  ผักอินทรีย์ และต้นอ่อนผัก (sprout) ได้รับความนิยมอย่างมาก ต้นอ่อนผักที่เรารู้จักในปัจจุบันก็จะเป็นต้นอ่อนทานตะวันที่ใช้เวลาในการเพาะง่าย ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่หาง่าย ที่สำคัญมีสารอาหารที่สูงไม่ต่างจากผักที่ใช้เวลาปลูกนาน  วันนี้อุ้มจะพาไปรู้จักกับผักชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาเพาะเป็นต้นอ่อนได้ คือกระเจี๊ยบ เนื่องจากกลับบ้านที่ต่างจังหวัดแล้วเจอต้นกระเจี๊ยบแดงที่แก่เลยเก็บดอกมาตากแห้งเพื่อใช้ทำน้ำกระเจี๊ยบคะ แต่มันมีเมล็ดเยอะมากจะทิ้งก็เสียดายจะเพาะหมดก็ปลูกไม่ไหว เลยลองเพาะเป็นต้นอ่อนดูที่แรกก็ไม่มั่นใจว่าจะกินได้ไหมเลยหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติมทำให้รู้ว่ากระเจี๊ยบก็สามารถเพาะเป็นต้นอ่อนได้คะ สำหรับเวลาในการเพาะจนทำอาหารได้ก็ประมาณ 4 – 7 วันคะ ส่วนรสชาติก็จะอมเปรี้ยวนิดหน่อย เวลาเคี้ยวจะมีความเหนียวของเส้นใยผัก ต้นอ่อนกระเจี๊ยบมีสารอาหารมากมายไม่ว่าจะเป็น ไฟโตนิวเทรียนท์ (phytonutrient) ซึ่งมีประโยชน์สูงโดยเฉพาะการทำลายสารอนุมูลอิสระ และควบคุมการออกฤทธิ์ของฮอร์โมน และวิตามินอื่นดังแสดงในตาราง

สารอาหาร ประโยชน์ต่อร่างกาย
ไฟโตนิวเทรียนท์ (phytonutrient) ต้านออกซิเดชั่น ทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระ ลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับดีเอ็นเอ เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้สารพฤกษเคมีลดการเกิดโรคมะเร็งได้ เพิ่มภูมิต้านทานโรค ควบคุมการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนให้อยู่ในระดับสมดุล
รูติน (rutin) การต้านการอักเสบ ต้านไวรัส ต้านจุลินทรีย์ และต้านมะเร็ง รักษาโรคภูมิแพ้ช่วยให้อาการของการแพ้ละอองต่างๆ และหอบหืดดีขึ้น รักษาเส้นเลือดขอด และริดสีดวงทวาร ซึ่งเป็นอาการอักเสบของหลอดเลือดดำในลำไส้ตรง และปากทวารอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิตามิน A ช่วยบำรุงสายตา และแก้โรคตามัวตอนกลางคืน ช่วยให้กระดูก ผมฟัน และเหงือกแข็งแรง สร้างความต้านทานให้ระบบหายใจ ช่วยสร้างภูมิชีวิตให้ดีขึ้น และทำให้หายป่วยเร็วขึ้น ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ ลดการอักเสบของสิว และช่วยลบจุดด่างดำ ช่วยบรรเทาโรคเกี่ยวกับไทรอยด์
วิตามิน B ช่วยเสริมสร้างสารสื่อประสาทสมอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงสมอง ระบบความจำโดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือผู้ที่อยู่ในสภาวะ เครียด คอเลสเตอรอลสูง บรรเทาสิวชนิดผื่นแดง ช่วยสร้างภูมิ ต้านทานและเซลล์เม็ดเลือด รวมทั้งบรรเทาอาการทางระบบประสาท รักษาสภาพผิวหนังให้เป็นปกติ หากขาดจะมีอาการ อ่อนเพลีย ชาปลายมือ-เท้า ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานดีขึ้น
วิตามินซี เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง  มีบทบาทสำคัญในการสร้าง คอลลาเจน เพื่อช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ใน         ร่างกายเส้นเอ็น และคอลลาเจน วิตามินซีช่วยให้ร่างกายดูดซึม ธาตุเหล็ก ได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงชะลอความแก่

 

สำหรับวิธีการเพาะต้นอ่อนกระเจี๊ยบก็สามารถทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก คือ

ต้นอ่อนกระเจี๊ยบ-1       1.นำเมล็ดกระเจี๊ยบที่ล้างทำความสะอาดแล้วมาแช่น้ำไว้ 1 คืน จะเริ่มเห็นตุ่มรากสีขาวที่เมล็ด

 

ต้นอ่อนกระเจี๊ยบ-3     3.นำไปภาชะนะที่เสร็จแล้ว รดน้ำไปวางในที่มืด รดน้ำเช้าเย็น วันที่ 4 ต้นกล้าระเริ่มเขียวและยาวก็สามารถตัด และนำมาผัดได้ หรือจะรดน้ำต่อจนถึงวันที่ 7 ต้นอ่อนที่ยาวและจะโตเต็มที่

ต้นอ่อนกระเจี๊ยบ-2       2.นำเมล็ดโรยบนวัสดุเพาะตามที่แต่ละคนสะดวกคะ บางคนจะใช้ขุยมะพร้าว แกลบเผา อุ้มเองเอาทรายเพาะก็สามารถงอกได้เช่นกันแต่ดินจะแห้งเร็ว และแน่นเกินไป แต่ก็เป็นวัสดุที่หาง่าย ภาชนะใส่จะเป็นตะกร้า หรือกล่องตามที่แต่ละคนสะดวก

ต้นอ่อนกระเจี๊ยบ-4       4.ต้นอ่อนตัดรากพร้อมประกอบอาหาร

นอกจากเมล็ดกระเจี๊ยบแล้วยังมีเมล็ดพืชอื่นๆ ที่สามารถนำมาเพราะได้ และสามารถหาได้ง่ายตามห้างร้านต่างๆ คือ ต้นอ่อนเมล็ดข้าวสาลี ที่จะมีปริมาณคลอโรฟิลล์สูง ต้นอ่อนเมล็ดถั่วดำ ที่มีลักษณะเด่นในด้านการบำรุงเลือด ขับสารพิษ  ต้นอ่อนเมล็ดเจี่ยมีสารต้านอนุมูลอิสระ  โอเมก้า 3  โปรตีน และวิตามิน ต้นอ่อนอัลฟาฟ่าเป็นแหล่งวิตามิน A, B1, B6, B8, B12, C, D, E, K, P และ U รวมทั้งยังประกอบไปด้วยเกลือแร่อีกหลากชนิด เช่น ฟอสฟอรัส โปรแตสเซียม แคลเซียม สังกะสี เซเลเนียม และแมกนีเซียม สำหรับพี่ๆ  เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจต้นอ่อนชนิดต่างๆ ก็สามารถหามาเพาะเพื่อรับประทานเองได้เพราะปัจจุบันก็มีจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า และจำหน่ายทางอินเตอร์เน็ตค่ะ

ขอบคุณข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ และภาพสวยๆ

บริษัท บ้านสบาย จำกัด (http://www.h2ohydrogarden.com. /การปลูกผักงอก/การปลูกต้นอ่อนกระเจี๊ยบ.html)

บ้านไร่ปลายฝัน (http://www.sunflowersprout.com /เมล็ดต้นอ่อนกระเจี๊ยบ/20150705_093323/.)

ผู้เขียน  :  นางสาวนิภาพร สีทน (วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาเกษตรศาสตร์ (พืชสวน) มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี)                  บัณฑิตทุนรุ่น 11/2555