สำหรับในครั้งนี้ ผมขอเสนอเกี่ยวกับวัดที่ผมชอบมากที่สุดในโตเกียว นั่นก็คือ วัดอาซากุสะ หรือที่คนญี่ปุ่นรู้จักกันในชื่อ วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) ครับ เป็นวัดในพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงและมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานมากที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียวครับ นับย้อนไปได้ถึงครั้งแรกที่มีการพบพระประธานและเป็นที่มาของการสร้างวัดเป็นครั้งแรก เมื่อราว พุทธศักราช 1171 เลยทีเดียวครับ  วัดอาซากุสะได้รับการบูรณะต่อเติมอยู่หลายครั้ง จนมีความสวยงามอย่างมากในปัจจุบัน  และได้รับความเลื่อมใสจากนักท่องเที่ยวทั้งจากทั่วประเทศญี่ปุ่น รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จนในปัจจุบัน ได้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ที่นักท่องเที่ยวต้องการจะเดินทางมาสักการะ เมื่อได้มายังโตเกียวเลยทีเดียว

ตัวผมนั้น ปัจจุบันก็ได้มีโอกาสอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ล่วงเข้าสู่ปีที่สามแล้วครับ นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสมาที่วัดอาซากุสะแห่งนี้  ผมก็รู้สึกประทับใจกับความสวยงามของวัดรูปแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมดั้งเดิมและวัฒนธรรมร่วมสมัย ที่ผสานกันได้อย่างลงตัว ถ้าใครได้มาโตเกียวแล้วอยากจะเลือกซื้อสินค้าที่มีความเป็นญี่ปุ่น หรือต้องการทานขนมญี่ปุ่นรูปแบบดั้งเดิมล่ะก็ ผมเชื่อว่าร้านรวงที่รายล้อมอยู่รอบๆ วัดอาซากุสะนั้นสามารถตอบโจทย์ของท่านได้เป็นอย่างดีครับ

เมื่อเดินทางมาถึงสถานี Asakusa Station แล้วเดินขึ้นมายังทางออก Sensoji Temple Exit แล้ว เดินมาตามป้ายบอกทางเพียงแค่นาทีเดียว ก็จะพบกับประตูวัด Kaminarimon ที่มีโคมสีแดงขนาดใหญ่ผูกอยู่ตรงกลางของประตู หลังจากถ่ายรูปกับโคมสีแดงและประตูวัดแล้ว เมื่อเดินเข้าประตูไป ก็จะพบกับร้านรวงสองข้างทางเดิน ให้ได้เลือกสรรกันอย่างเต็มที่ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายสินค้าที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมญี่ปุ่น อาทิ ขนมข้าวเกรียบเซมเบ้ ขนมแป้งทอดสอดใส้ถั่วแดง ร้านขายชุดกิโมโนและยูกาตะ ร้านขายพัดและตะเกียบญี่ปุ่น และร้านของที่ระลึกน่ารักๆ ต่างๆ มากมายครับ  เมื่อเดินไปจนสุดถนน ก็จะพบกับประตูวัดที่มีลักษณะเหมือนกับประตู Kaminarimon อีกหนึ่งบาน อันเป็นสัญญาณว่าเราได้เข้าสู่เขตของอุโบสถของวัดที่ประดิษฐานพระประทานแล้วนั่นเองครับ

เมื่อเดินเข้าประตูวัดไปแล้วนั้น ก่อนจะถึงอุโบสถพระประทาน ก็จะต้องเดินผ่าน กระถางธูปขนาดใหญ่ ที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่า การกวักควันที่ออกมาจากกระถางธุปนี้เข้าหาตัว จะทำให้โชคดีและเป็นสิริมงคลครับ ทุกคนสามารถซื้อธูปได้ที่จุดบริการทางด้านขวามือ ราคาชุดละ100เยน (ราวๆ 30 บาทครับ ) ครับ และถัดจากกระถางธูปไป ก็จะเป็นจุดสำหรับล้างมือและปากก่อนเข้าไปสักการะพระประธานครับ สำหรับวิธีการล้างมือและปากนั้น ก็เพียงแค่ใช้กระบวยที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ 1) ใช้มือขวาตักน้ำขึ้นมา ค่อยๆเทราดลงบนมือซ้ายประมาณหนึ่งในสามส่วนของน้ำ แล้วทำการเปลี่ยนข้างเป็น 2) ใช้มือซ้ายถือกระบวยเทราดลงบนมือขวาประมาณหนึ่งในสามส่วน และน้ำส่วนที่เหลือ 3) ให้ทำการเปลี่ยนไปใช้มือขวาถือกระบวยแล้วเทน้ำที่เหลืออยู่ลงบนอุ้งมือซ้าย แล้วนำไปสัมผัสกับริมผีปาก ก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ

ถัดจากนั้น ในคอมลัมน์วันนี้ผมก็อยากจะขอแนะนำวิธีการสักการะวัดและศาลเจ้าญี่ปุ่น ตามแบบฉบับให้ทุกท่านได้ทราบนะครับ แม้จะบอกว่าเป็นแบบฉบับญี่ปุ่น แต่ก็มีการแนะนำเอาไว้หลากหลายรูปแบบนะครับ สำหรับวันนี้รูปแบบที่ผมอยากจะนำเสนอพร้อมภาพประกอบ ผมคิดว่าน่าจะเป็นรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับชาวต่างชาติครับ ซึ่งมีวิธีการปฏิบัติดังนี้ครับ

1) ถ้าจุดที่จะทำการสักการะมีเชือกที่ผูกกับกระดิ่งขนาดใหญ่แขวนอยู่ ให้ทำการสั่นกระดิ่งด้วยความสำรวม

2) จากนนั้นให้ใส่เหรีญญเงินที่เราต้องการทำบุญลงไปในตู้ใส่เงินทำบุญที่อยู่ด้านหน้าครับ ใช้การโยนอย่างสุภาพก็ได้ครับ

3) โค้งคำนับ 2 ครั้ง โดยให้หลังโค้งต่ำพอสมควร บางที่แนะนำว่าให้แผ่นหลังตั้งฉาก ประมาณ 90 องศาครับ

4) ปรบมือ 2 ครั้ง

5) พนมมือ แล้วอฐิษฐานขอพร

6) โค้งคำนับอีกครั้งหนึ่ง เป็นอันเสร็จพิธีครับ

 

ผู้เขียน : ไพโรจน์  เรืองมนประเสริฐ (โรจน์) บัณฑิตทุน รุ่นที่ 13/2557