ฟังเสียงไพร สูดไอดิน หอมกลิ่นเขา
เคียงลำเนา เคล้าลำนำ คำขับขาน
ทำนองดาว จังหวะดิน กล่อมวิญญาน
บรรจงจาร จารึกรอย “ดอยพะวี”

บนเส้นทางรอยต่อชายแดนไทย-เมียนมาร์ที่เต็มเปี่ยมด้วยความอุดมสมบูรณ์หอมกรุ่นด้วยนิยามของคำว่า “ธรรมชาติ” ยังมีดินแดนดอยแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า “ดอยพะวี” อาณาจักรแห่งขุนเขาที่ทำให้เราได้ค้นพบความมหัศจรรย์ มนต์เสน่ห์แห่งผืนไพร ผสานเสียงเพรียกแห่งสายลม คลอเคล้ารอยยิ้มแห่งมวลเมฆ ได้เสกสร้างสีสันการเดินทางได้อย่างครบรส สะกดอณูลมหายใจ ปลุกความสดชื่นให้กังวานก้องอีกครั้ง ข้าวทุกคำที่เคี้ยวเรียกได้เลยว่าติดดินแต่ความฟินยิ่งกว่าภัตตาคารระดับห้าดาว ห้องนอนก็กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาอากาศก็หนาวเย็นจับจิตโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ ไม่เปลืองพลังงานแต่เปี่ยมล้นด้วยพลังใจที่ชโลมไล้ด้วยไอรักจากแสงดาวและไอดิน ระรินเรียงเป็นเสียงกล่อมที่ไพเราะล้ำฉ่ำดวงจิตยามนิทรา บรรยากาศธรรมดาที่คอนโดตระหง่านฟ้าในมหานครไม่สามารถให้เราได้ การเดินทางครั้งนี้ไม่แน่ชัดว่าระยะทางรวมทั้งหมดกี่กิโลเมตร แต่ฟังจากเสียงเต้นของหัวใจน่าจะไม่ต่ำกว่า30กิโลเป็นแน่ ที่สำคัญคือมีหลงป่าด้วยครับ

 

ขอบคุณข้อมูล : อุดม นุสาโล (โดม) บัณฑิตทุน รุ่นที่ 2/2546

ข้อมูลอ้างอิง : https://www.facebook.com/dome.dinch